0864409257

ไม้สักไทย และ ไม้สักพม่า แตกต่างกันอย่างไร

ข้อแตกต่างระหว่าง ไม้สักไทย กับ ไม้สักพม่า ไม้สักทอง, ไม้สัก หรือ สัก จริงๆ แล้ว มีพันธุ์เดียว คือ Tectona Grandis แต่ที่เ...

ข้อแตกต่างระหว่าง ไม้สักไทย กับ ไม้สักพม่า

ไม้สักทอง, ไม้สัก หรือ สัก จริงๆ แล้ว มีพันธุ์เดียว คือ Tectona Grandis แต่ที่เรียกชื่อต่างๆ กัน คือ การตั้งชื่อ ตามพื้นที่ ที่ปลูก แม้แหล่งไม้สักที่นิยมนำมาใช้งาน จะมีด้วยกัน หลายที่ในโลก แต่แหล่งหลักๆ ที่เราคุ้นเคยและใช้กันประจำ คือ ไม้สักพม่า จากประเทศพม่า ซึ่งจะเป็นไม้สัก ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก และเราจะมาดูความแตกต่างกับ ไม้สัก จากประเทศไทย ซึ่งนอกจากแหล่งที่ปลูกแล้ว ยังมีอีกหลายองค์ประกอบ ที่แตกต่างกัน เพื่อให้เลือกใช้งานได้อย่างเหมาะสม





1.สถานที่ปลูก และ อายุ

ไม้สักพม่า จะเป็นไม้สัก ที่ขึ้นตาม ธรรมชาติ ที่ประเทศ พม่า และด้วยสภาพอากาศ และแร่ธาตุในดิน ที่ดี ทำให้ สักพม่า เติบโตได้อย่างสมบูรณ์ และถ้า สักอายุประมาณ 100 ปี ขึ้นไป  ลำต้น มีขนาดเส้นรอบวงประมาณ 180 ซม ขึ้นไป และมีเนื้อไม้ที่ค่อนข้างดี

ส่วน ไม้สักไทย ที่ใช้กัน ปัจจุบัน จะเป็นไม้สัก จากป่าที่ปลูกขึ้น เพื่อ ทดแทน ป่าธรรมชาติ และมีทั้งป่า จาก เอกชน และ ป่าปลูก ของ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (ออป) ซึ่งทาง เอเชีย ทีค วู้ด จะเลือกใช้ ป่าปลูก ของ ออป. ซึ่งจะมีแหล่งที่ปลูกอยู่ ทางภาคเหนือ ของประเทศไทย ซึ่งสภาพอากาศ และแร่ธาตุในดิน ดี เหมาะกับการปลูก และมีอายุที่ 30-40 ปี ลำต้น มีขนาดเส้นรอบวงประมาณ 60-120 ซม. เนื้อไม้ค่อนข้างดี ต้นตรง เพราะมีการปลูกอย่างเป็นหลักการ ทำให้เนื้อไม้มีคุณภาพดี เหมาะแก่การนำไปใช้งานได้ดี   




2.การแปรรูป และ คัดเกรด

ไม้สักพม่า ที่มีอายุมาก จะมีลำต้นที่ใหญ่ เนื้อเยอะ ทำให้การแปรรูป สามารถได้ไม้หน้าใหญ่ ยาว และลายน้อย เพราะมีวงปีที่ใหญ่ ดังนั้นจะสามารถคัดเกรด AAA ได้ ซึ่งเป็น เกรดที่มีความต้องการมาก เพราะมีความสวยงามในทุกด้าน ของเนื้อไม้

ไม้สักไทย ที่มีอายุ 30-40 ปี ที่เราเลือกมาใช้งาน ด้วยเส้นรอบวง ที่เล็กกว่า ทำให้การแปรรูป ค่อนข้างจะยาก เพราะไม้ป่าปลูก จะมีทั้งกระพี้ และ ตาไม้ ดังนั้น ด้วยวิธีการเลื่อยคัดเกรด และ ความชำนาญ ในการแปรรูปไม้ ของทีมช่างที่ เอเชีย ทีค วู้ด เรา สามารถคัดเกรด ที่หลากหลาย ตามความต้องการของ ลูกค้า และสามารถแปรรูป ได้เป็นเกรด AB หรือ สวย 1 หน้า เพื่อคุณภาพ สินค้าที่ใกล้เคียงกับ ไม้สักพม่า
 



3.คุณภาพไม้ และ การใช้งาน

ไม้สักพม่า มีความเรียบหรู เส้นลายน้อย จึงเหมาะสำหรับใช้งานตกแต่ง ที่สวยงาม หรูหรา เช่น ใช้งานพื้นภายนอก ภายในบ้าน ทำพื้นเรือยอร์ช เฟอร์นิเจอร์ภายนอก ซึ่งต้องการความแข็งแรง ทนทาน และยังน้ำมันในตัว ป้องกัน ปลวกและมอดได้ดี จึงมีอายุการใช้งาน ที่ยาวนาน

ไม้สักป่าปลูกไทย จะมีลายเส้นที่เยอะกว่า และ มีตาไม้ จึงเหมาะสำหรับใช้งานตกแต่ง ที่ต้องการโชว์ลวดลายของไม้สัก ซึ่งเวลาลงน้ำมัน จะยิ่งโชว์ลายเส้นสวยงาม ส่วนถ้าจะใช้งานภายนอก อาจจะเลือก เกรดที่คัดพิเศษ เพื่อเหมาะกับการใช้งาน ส่วนน้ำมันในตัวที่ป้องกัน ปลวก และ มอด อาจจะน้อยกว่า ไม้สักพม่า แต่สามารถใช้บริการ อัดน้ำยา ป้องกัน มอดแมลง เพิ่มได้ เพื่อความมั่นใจ

ในเรื่องของสี ไม้ทั้งสองชนิด ถือว่ามี สีเหลืองทอง ที่ใกล้เคียงกันมาก ส่วนเรื่องราคา ไม้สักป่าปลูกไทยนั้น ราคาสามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าไม้สักพม่า ดังนั้น อยู่ที่การ เลือกใช้ให้เหมาะสม กับหน้างาน นั้นๆ



4.สิ่งแวดล้อม และ ความยั่งยืน

ไม้สักพม่า เป็นไม้สักที่ขึ้นตามธรรมชาติ และ ปัจจุบัน มีจำนวนลดน้อยลง และหายากกว่าเดิม ราคาจึง
ค่อนข้างจะสูง แต่ก็ยังมีความต้องการที่สูง เนื่องจากคุณภาพที่ดี ระดับโลก แต่ความยั่งยืน ในการเลือกใช้ในระยะยาวก็ยังเป็น ความกังวล ถ้าจะทำตลาดในระยะยาว และ เรื่องเอกสารที่มาของไม้ ก็ยังมีความสำคัญ เพราะปัจจุบัน มีการ รณรงค์ ให้เกิดจิตสำนึกในการรักษา ธรรมชาติ จึงต้องศึกษาเรื่องเอกสารที่มาของไม้เป็นลำดับต้นๆ     

ไม้สักไทย จากป่าปลูกขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (ออป) ถือว่าเป็น ไม้สักรักษ์โลก เพราะมีเป้าหมายในการปลูกเพื่อทดแทนป่าธรรมชาติ (Forestry Management) และเกิดการหมุนเวียน เมื่อมีการทำไม้ ก็จะปลูกทดแทนตามรอบปลูกทันที จึงมีความยั่งยืนในการที่จะใช้เป็น วัตถุดิบในการผลิตสินค้า ในระยะยาวได้ และเอกสารที่มาของไม้ ก็ชัดเจน เพราะออกจากแปลงปลูกของ ออป เอง ปลอดภัย ถูกกฎหมาย ทั้งสร้างจิตสำนึกในการ ใช้ไม้สักให้เกิดคุณค่ามากที่สุด และ ยังสร้างพื้นที่ป่าสีเขียวให้โลกอีกด้วย







 
สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ :

Facebook : Asia Teak Wood


Line : @asiateak

โทร : 0864409257 /For Thai

Whatsapp : +66 929096397 /For English

Share this post :